NVDAIconBrandElement

article-thumbnail

2025-10-24 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

AMD vs NVDA: ข้อตกลงใหม่กับ OpenAI หมายถึงอะไรสำหรับนักลงทุน 

การแข่งขันในตลาด AI ยิ่งร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง หลังจาก OpenAI ประกาศความร่วมมือครั้งใหม่กับผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่ ราคาหุ้นของ AMD พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบใหม่ ทำให้นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามว่า AMD กำลังไล่ทัน Nvidia (NVDA) ในศึกชิป AI มูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์แล้วหรือไม่  คำถามสำคัญคือ นี่เป็นเพียงการฟื้นตัวระยะสั้น หรือเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอำนาจการแข่งขันของตลาดฮาร์ดแวร์ AI กันแน่  ข้อได้เปรียบลับของ AMD: กลยุทธ์โครงสร้างพื้นฐาน AI  เมื่อพูดถึง AMD หลายคนอาจนึกถึง CPU และชิปกราฟิกสำหรับเล่นเกม แต่แผนต่อไปของ AMD ก้าวไกลกว่านั้น บริษัทกำลังวางตำแหน่งตัวเองให้เป็นหัวใจสำคัญของ โครงสร้างพื้นฐาน AI ครอบคลุมตั้งแต่ชั้นวางเซิร์ฟเวอร์ ชิป ไปจนถึงระบบที่ขับเคลื่อนศูนย์ข้อมูลซึ่งรองรับโมเดลอย่าง ChatGPT  จุดศูนย์กลางของกลยุทธ์นี้คือ AMD Helios Platform ระบบ AI ขนาดใหญ่ระดับแร็กที่ออกแบบมาเพื่อแข่งขันโดยตรงกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ Nvidia โดย Helios ผสานรวม ชิป AI ของ AMD ส่วนประกอบเครือข่าย และหน่วยความจำทั้งหมดไว้ในแพ็กเกจเดียว  สิ่งนี้สำคัญอย่างไร เพราะการแข่งขันในยุค AI ไม่ได้อยู่แค่ในตลาด GPU อีกต่อไป แต่คือการแข่งขันของผู้ที่สามารถส่งมอบระบบครบวงจรได้เร็วกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่า  ข้อตกลงกับ OpenAI จะเป็นจุดเปลี่ยนของ AMD หรือไม่  เมื่อต้นเดือนตุลาคม มีรายงานว่า AMD ทำข้อตกลงใหม่กับ OpenAI ซึ่งอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของแผนพัฒนา AI ของบริษัท OpenAI ผู้อยู่เบื้องหลัง ChatGPT กำลังขยายเครือข่ายซัพพลายเออร์เพื่อลดการพึ่งพา Nvidia และเพิ่มความมั่นคงด้านอุปทานและต้นทุนให้ดียิ่งขึ้น  สำหรับ AMD นี่คือโอกาสครั้งใหญ่ การที่ชิปของบริษัทถูกนำไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐานของ OpenAI แสดงถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในโซลูชัน AI Data Center ของ AMD และนักลงทุนก็สังเกตเห็นแล้วเช่นกัน   มูลค่าตลาด AI เพิ่มขึ้นกว่า 630 พันล้านดอลลาร์ในชั่วข้ามคืน  หลังจาก OpenAI ประกาศความร่วมมือกับ Broadcom, Oracle, Nvidia และ AMD มูลค่ารวมของตลาดหุ้นในกลุ่ม AI เพิ่มขึ้นกว่า 630 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในวันเดียว สะท้อนให้เห็นถึงพลังของเทรนด์ AI ที่ยังคงร้อนแรงทั่วโลก  ในบรรดาหุ้นทั้งหมด AMD กลายเป็นดาวเด่น โดยราคาพุ่งขึ้นเกือบ 50% ภายในไม่กี่สัปดาห์ ความตื่นเต้นนี้ไม่ได้มาจากกระแสเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจาก “ศักยภาพที่แท้จริง” ของบริษัท  หาก OpenAI ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการ AI ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก เริ่มหันมาใช้ฮาร์ดแวร์ของ AMD นั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของ “สมดุลใหม่” ที่รอคอยมานานในศึก AMD ปะทะ NVDA  AMD vs NVDA: สงคราม AI ครั้งยิ่งใหญ่  สงครามหุ้น AI ระหว่าง AMD และ Nvidia (NVDA) กำลังก้าวเข้าสู่ระดับใหม่อย่างเต็มตัว ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น AMD เพิ่มขึ้นเกือบ 176% แซงหน้าการเติบโตของ Nvidia ที่ 83% ถือเป็นการพลิกเกมครั้งสำคัญสำหรับบริษัทที่เคยถูกมองว่าเป็นผู้ตาม  ในแง่มูลค่าตลาด Nvidia ยังคงครองอันดับหนึ่งด้วยมูลค่าราว 2.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับ 650 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ของ AMD แต่ช่องว่างกำลังค่อยๆ แคบลง ขณะที่ Nvidia ยังคงเป็นชื่อหลักในตลาดชิป AI การจับมือระหว่าง AMD และ OpenAI รวมถึงการเปิดตัว Helios Platform ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้นักลงทุนว่า AMD มีศักยภาพในการแย่งส่วนแบ่งตลาดศูนย์ข้อมูล AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วได้มากขึ้น  หากแรงส่งนี้ยังคงต่อเนื่องไปถึงปี 2025 นี่อาจเป็นครั้งแรกที่ AMD สามารถท้าทายอำนาจการครองตลาดของ Nvidia ได้อย่างแท้จริงในโลกของฮาร์ดแวร์ AI  AMD จะสามารถท้าทายอำนาจผู้นำตลาด AI ของ Nvidia ได้จริงหรือไม่  พูดตามตรง Nvidia ยังคงครองบัลลังก์ในอาณาจักรชิป AI ด้วย GPU สแต็กซอฟต์แวร์ (CUDA) และระบบนิเวศของนักพัฒนาที่แข็งแกร่ง ทำให้ Nvidia มีความได้เปรียบมหาศาล แต่ตอนนี้ AMD ไม่ได้อยู่ในสถานะ “ผู้ตาม” อีกต่อไป เพราะกำลังเดินเกมในมุมที่ต่างออกไป   ผ่านแพลตฟอร์ม AMD Helios บริษัทมุ่งนำเสนอทางเลือกที่ยืดหยุ่น เปิดกว้าง และคุ้มค่ากว่าระบบแบบปิดของ Nvidia เพื่อสร้างระบบนิเวศ AI ที่เข้าถึงได้มากกว่า พูดอีกอย่างคือ ขณะที่ Nvidia สร้าง “สวนปิด” AMD กำลังสร้าง “สนามเปิด” ที่ผู้ให้บริการคลาวด์และสตาร์ทอัพด้าน AI สามารถปรับแต่งและขยายได้อย่างอิสระ  นั่นเองคือเหตุผลที่ตลาด AI ในปี 2025 อาจมีโฉมหน้าที่แตกต่างไปจากวันนี้อย่างสิ้นเชิง  แนวโน้มตลาด AI ปี 2025 กำลังเป็นรูปเป็นร่าง  นักวิเคราะห์คาดว่าการใช้จ่ายทั่วโลกด้าน โครงสร้างพื้นฐาน AI จะทะลุ 400 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2025 ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ชิป เซิร์ฟเวอร์ ระบบเครือข่าย ไปจนถึงโซลูชันแบบครบวงจร และ AMD กำลังมุ่งคว้าส่วนแบ่งที่ใหญ่ขึ้นของตลาดนี้  ชิปรุ่นใหม่ของ AMD AI รวมถึงซีรีส์ MI450 ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่น การฝึกสอนและการประมวลผลโมเดล เมื่อจับคู่กับโครงสร้าง Helios Platform และพันธมิตรในตลาดศูนย์ข้อมูล AI ที่เพิ่มขึ้น AMD จึงไม่ใช่แค่ “ตัวเลือกสำรอง” อีกต่อไป แต่กลายเป็นผู้เล่นรายสำคัญที่พร้อมแข่งขันเต็มตัว  ข้อตกลง AMD-OpenAI ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้น หาก AMD สามารถต่อยอดด้วยการทำสัญญากับผู้ให้บริการ Hyperscaler รายใหญ่ เช่น Amazon, Google หรือ Meta รายได้ของบริษัทอาจพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และกลายเป็นแรงขับเคลื่อนครั้งใหญ่ของยุค AI  การวิเคราะห์ทางเทคนิค: หุ้น AMD กำลังอยู่ในจุดเบรกเอาต์  จากมุมมองทางเทคนิค หุ้น AMD ได้ทะลุแนวต้านสำคัญบริเวณ 180 ดอลลาร์ ขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่ โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณการซื้อขายที่แข็งแกร่ง หากโมเมนตัมยังคงต่อเนื่อง การปรับตัวขึ้นอาจทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งในช่วงสัปดาห์หรือเดือนข้างหน้า  นักเทรดระยะสั้นอาจจับตาการรีเทสต์แนวต้านที่ 227 ดอลลาร์ และแนวรับจิตวิทยาที่ 200 ดอลลาร์  หากราคาปรับลงต่ำกว่า 180 ดอลลาร์ อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้น แต่แนวโน้มโดยรวมยังคงเป็นบวกในตอนนี้  บทสรุป: ยุคใหม่ของ AMD ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว  ความร่วมมือกับ OpenAI อาจเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับ AMD ไม่ใช่แค่ในรอบวัฏจักรของชิปทั่วไป แต่คือการเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI อย่างเต็มรูปแบบ  ด้วยการขยายพันธมิตรเชิงกลยุทธ์และการพัฒนา Helios Platform รวมถึงความแข็งแกร่งในด้าน ศูนย์ข้อมูล AI AMD กำลังวางตำแหน่งตัวเองให้พร้อมรับการเติบโตของตลาด AI ที่กำลังเฟื่องฟูในปี 2025  อย่างไรก็ตาม การแข่งขันยังไม่จบ เพราะ Nvidia ยังคงมีความได้เปรียบในเชิงเทคนิคและการดำเนินงาน ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดว่า AMD จะสามารถเปลี่ยนโอกาสนี้ให้กลายเป็นการเติบโตระยะยาวได้หรือไม่  แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ เรื่องราวของ AMD ได้เข้าสู่บทใหม่แล้ว และนักลงทุนทั่วโลกต่างจับตามองอย่างใกล้ชิด 

article-thumbnail

2024-05-30 | สารจาก D Prime

NVDA เกิดการแตกหุ้น (Stock Split) ตอนนี้เป็นเวลาที่ควรซื้อหรือไม่

จากข่าวล่าสุด NVDA ได้ประกาศการแยกหุ้นที่ 10:1 ซึ่งถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์!    ซึ่งหมายความว่าตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2024 เป็นต้นไป แต่ละหุ้น NVDA ที่คุณถืออยู่จะแปลงเป็นสิบหุ้น! หรือหากคุณเป็นนักลงทุนรายใหม่ คุณสามารถซื้อหุ้น NVDA ได้ด้วยต้นทุนน้อยกว่า 10 เท่า   แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อหุ้น NVDA ที่ “ถูกกว่า” ลองย้อนกลับไปและวิเคราะห์ว่าการแยกหุ้นคืออะไรและผลกระทบที่อาจมีต่อหุ้น NVDA นอกจากนี้ เรามาวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยเทคนิคของ Nvidia กันดีกว่า  หารด้วยสิบ มูลค่าจะคงเดิม  โดยแก่นแท้แล้ว การแยกหุ้นเป็นกลยุทธ์ทางการเงินแบ่งหุ้นที่มีอยู่ของบริษัทออกเป็นหุ้นจำนวนที่มากขึ้นโดยมีราคาที่ต่ำกว่าเดิม ในกรณีของ NVIDIA 1 หุ้นที่มีราคา 1,000 ดอลลาร์จะแปลงเป็น 10 หุ้นที่ราคา 100 ดอลลาร์แทน แม้ว่าคุณอาจรู้สึกว่าคุณกำลังได้รับการลดราคา แต่จริงๆแล้วมูลค่ารวมของการถือครองของคุณยังคงเท่าเดิม มันเหมือนกับการตัดพิซซ่าออกเป็นสิบชิ้นแทนที่จะเป็นแปดชิ้น คุณยังคงมีปริมาณพิซซ่าเท่าเดิม แค่เป็นชิ้นที่เล็กๆ เท่านั้น  จิตวิทยาเบื้องหลังการแตกหุ้นของ NVDA  แล้วทำไมผู้คนถึงตื่นเต้นจากเรื่องนี้? การแยกหุ้นอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิทยาสำหรับนักลงทุน […]

article-thumbnail

2024-02-22 | สารจาก D Prime

นักลงทุนควรเข้าซื้อหรือไม่ กับกระแส NVDA และ SMCI มาแรง

ด้วยพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของตลาดหุ้น ทำให้ปัจจุบันอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อยู่ในจุดสูงสุดตลอดกาล โดยที่มีบริษัทโดดเด่นอย่าง Super Micro Computer Inc (SMCI) และ Nvidia (NVDA) การเพิ่มขึ้นแบบเอ็กซ์โพเนนเชียลนี้ กระตุ้นให้เกิดการหาเหตุผลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นในครั้งนี้ อดีตได้เตือนเราไว้ว่าการขึ้นที่รุนแรงเช่นนี้แม้จะน่าตื่นเต้น แต่ก็มักจะนำไปสู่การย่อตัวของราคาซึ่งจะสร้างแรงขายในท้ายที่สุด  บทความนี้จะเจาะลึกถึงจิตวิทยาที่อยู่เบื้องหลังความคลั่งไคล้เซมิคอนดักเตอร์ โดยพิจารณาถึงความยั่งยืนของบริษัทอย่าง NVDA ท่ามกลางกระแสราคาที่เพิ่มขึ้น และตั้งคำถามที่สำคัญเกี่ยวกับการคาดการณ์อนาคตของอุตสาหกรรม  ระยะของภาวะฟองสบู่ ฟองสบู่หรือความคลั่งไคล้ทางการเงิน มักเป็นไปตามรูปแบบที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน ซึ่งกำหนดรูปแบบโดยประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ 500 ปี แม้ว่าแต่ละวิกฤษจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่โดยทั่วไปแล้วฟองสบู่ในแต่ละครั้งจะมีลักษณะคล้ายๆ กันอยู่ 4 ขั้นตอน: ในตอนแรก นักลงทุนที่เชี่ยวชาญจะรับรู้ถึงโอกาสที่อาจจะเกิดขึ้นได้ และความสามารถที่จะทำผลกำไรได้อย่างมหาศาลในอนาคต โดยเรียกกลุ่มนี้ว่าเป็น “เจ้ามือ (Smart Money)” กลุ่มนี้จะลงทุนอย่างระมัดระวังโดยมีสมมติฐานที่เป็นการเก็งกำไร ราคาจะสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างเงียบๆ และคนส่วนใหญ่ในตลาดจะยังไม่ตระหนักถึง  เมื่อมีโมเมนตัมเพิ่มขึ้น นักลงทุนจำนวนมากก็เริ่มจับกระแสเทรน ซึ่งอัดฉีดเงินทุนเพิ่มและผลักดันราคาให้สูงขึ้น การขายออก (sell off) อาจจะมีในช่วงเวลาสั้นๆ เปิดโอกาสให้นักลงทุนในช่วงแรกได้ใช้ประโยชน์จากผลกำไร การรายงานข่าวของสื่อ (Media attention) เริ่มมีมากขึ้น โดยดึงดูดกลุ่มนักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญน้อย  […]